ไม่มีที่ข้อแม้สำหรับข้อผิดพลาดเมื่อมีชีวิตของผู้ป่วยเข้ามาเกี่ยวข้อง ศัลยแพทย์ได้รับการศึกษาและการฝึกอบรมอย่างจริงจังเคร่งครัดเพื่อให้ปฏิบัติงานในห้องผ่าตัดได้อย่างสมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตาม พื้นที่ที่จำกัดและเวิร์กโฟลว์ที่ไม่มีประสิทธิภาพในห้องผ่าตัดแบบดั้งเดิมยังคงส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้ป่วยและผลลัพธ์ของการผ่าตัด
โชคดีที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากกว่า นั่นก็คือห้องผ่าตัดอัจฉริยะ
ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่าห้องผ่าตัดอัจฉริยะทำงานอย่างไร ความแตกต่างเมื่อเทียบกับห้องผ่าตัดแบบดั้งเดิม และกรณีศึกษาในตะวันออกกลาง
ห้องผ่าตัดอัจฉริยะคืออะไร?
ลองนึกภาพห้องผ่าตัดอัจฉริยะ หรือที่เรียกว่าห้องผ่าตัดดิจิตอล เป็นศูนย์กลางที่รวมข้อมูลการผ่าตัดทั้งหมดเข้าด้วยกัน ตั้งแต่ข้อมูลผู้ป่วย ข้อมูลจากซอฟต์แวร์อื่นๆ ภาพCTหรือultrasound รายการตรวจสอบ เครื่องจับเวลา และวิดีโอในห้องผ่าตัด ทุกอย่างจะแสดงบนหน้าจอเดียวที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการเชื่อมต่อแบบดิจิตอลทั้งภายในและภายนอกห้องผ่าตัด
ข้อแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่างห้องผ่าตัดแบบดิจิตอลกับห้องผ่าตัดแบบแบบดั้งเดิมคือความสามารถในการเชื่อมต่อที่นอกเหนือขอบเขตของห้องผ่าตัด
เนื่องจากห้องผ่าตัดแบบดั้งเดิมนั้นแยกตัวออกจากกันอิสระ ผู้ที่อยู่ข้างนอกจึงไม่สามารถตรวจสอบหรือสนับสนุนศัลยแพทย์ที่อยู่ข้างในได้ ทุกรายละเอียดจำเป็นต้องใช้คนจดบันทึกเพื่อการตรวจสอบในภายหลัง เมื่อระบบรวมบูรณาการห้องผ่าตัดสามารถเชื่อมต่อกับภายนอกได้ การให้คำปรึกษาและการศึกษาระยะไกลจึงสามารถทำได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ ยังมีการบันทึกขั้นตอนการผ่าตัดและสามารถใช้เป็นสื่อการสอนหรือการวิจัยทางคลินิกได้
ประโยชน์ของห้องผ่าตัดดิจิตอล
การใช้ห้องผ่าตัดแบบดิจิตอลปฏิวัติขั้นตอนการผ่าตัดและเพิ่มอัตราความสำเร็จของการผ่าตัด Smart OR นำเสนอการปรับปรุงที่สำคัญ 3 ประการที่พลิกโฉมกระบวนการศัลยกรรม
1. การบูรณาการแหล่งวิดีโอสำคัญของการผ่าตัด
สำหรับขั้นแรก การรวมวิดีโอการผ่าตัดที่สำคัญจะสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ ศัลยแพทย์สามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดที่ต้องการได้ในที่เดียวผ่านระบบที่รวบรวมภาพ CT/MR/C-arm, แถบเวลา, บันทึกพิเศษ และฟังก์ชันบันทึกหรือscreen shotไว้ด้วยกัน
สิ่งนี้ทำให้ขั้นตอนการผ่าตัดคล่องตัวขึ้นและลดโอกาสเกิดความผิดพลาด ขณะนี้ทีมแพทย์สามารถมุ่งความสนใจไปที่การผ่าตัดแทนการเสียเวลาไปกับการหาอุปกรณ์หรือข้อมูล
2. เพิ่มความปลอดภัยของผู้ป่วย
นอกจากนี้ ยังเพิ่มความปลอดภัยของผู้ป่วยได้อย่างมาก การตั้งค่าอัจฉริยะช่วยบันทึกการตรวจสอบความปลอดภัยทีละขั้นตอนในระหว่างการผ่าตัด เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาด ทั้งยังช่วยติดตามจำนวนอุปกรณ์ที่ใช้และแจ้งเตือนการใช้ยาปฏิชีวนะระหว่างการผ่าตัด
ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังช่วยลดโอกาสการติดเชื้อระหว่างผ่าตัดได้อีกด้วย
3. รองรับระบบ Tele-OR
ห้องผ่าตัดแบบดิจิตอลยังรองรับระบบ Tele-OR ทำให้สามารถปรึกษากับแพทย์ท่านอื่น ๆ นอกห้องผ่าตัดได้แบบเรียลไทม์
ทีมศัลยแพทย์จึงครอบคลุมไปถึงนอกเขตห้องผ่าตัด เนื่องจากศัลยแพทย์สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือระยะไกลได้อย่างทันท่วงที ฟังก์ชันนี้สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยในการผ่าตัดที่ซับซ้อนหรือฉุกเฉินได้ การศึกษาทางไกลสามารถทำได้ด้วย Tele-OR ซึ่งเป็นการเปิดช่องทางใหม่สำหรับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ในการเรียนรู้และทำงานร่วมกันทางไกล ไม่ว่าจะในการประชุมนานาชาติหรือในโรงเรียนแพทย์
กรณีศึกษาในตะวันออกกลาง: โรงพยาบาลเฉพาะทาง Almoosa
โรงพยาบาลเฉพาะทาง Almoosa ประเทศซาอุดิอาระเบียเป็นสถานพยาบาลชั้นนำระดับโลกที่มีบุคลากรมากกว่า 3,000 คนและเตียงในโรงพยาบาล 380 เตียง เพื่อจัดเตรียมสภาพแวดล้อมห้อง OR ระดับโลกสำหรับผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลได้ค้นหาโซลูชั่นวิดีโอ 4K สำหรับห้องผ่าตัด ที่จะช่วยให้บุคลากรการแพทย์เข้าถึงข้อมูลการผ่าตัดได้ง่ายขึ้น iMOR-SDB ของ imedtac จึงเป็นตัวเลือกที่ตรงความต้องการของโรงพยาบาล
“iMOR-SDB จะช่วยให้เราสามารถปรับปรุงการผ่าตัดของเรา โดยใช้อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายเข้าจัดการข้อมูลวิดีโอการผ่าตัด” ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของ Almoosa กล่าว
“ความสามารถในการสตรีมสดของโซลูชั่นทำให้ผู้เชี่ยวชาญนอกพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานได้ นอกจากนี้ โรงพยาบาลยังปรับปรุงการดูแลผู้ป่วยด้วยการเก็บข้อมูลที่รวดเร็วและง่ายดายในระหว่างการผ่าตัด ดังนั้นบุคลากรในห้อง OR จึงสามารถทุ่มความสนใจไปที่ผู้ป่วยและมอบการดูแลที่ดีที่สุดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ”
iMOR-SDB รวมการนำร่องวิดีโอและข้อมูลทางการแพทย์ไว้ในอุปกรณ์เดียว ช่วยให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจัดการวิดีโอและข้อมูลการผ่าตัดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมการถ่ายทอดสดแบบ 4K ที่จะช่วยให้ศัลยแพทย์ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษาที่อยู่นอกห้องผ่าตัดสามารถเข้าถึงข้อมูลการผ่าตัดได้
ยิ่งไปกว่านั้น iMOR-SDB ยังสามารถบันทึกภาพของการผ่าตัดแต่ละครั้ง ซึ่งสามารถตรวจสอบและใช้เป็นสื่อการเรียนรู้เพื่อปรับปรุงขั้นตอนต่างๆ ข้อมูลที่บันทึกไว้ทั้งหมดถูกเก็บอย่างปลอดภัย เฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้ ตามแนวทางของรัฐบาล
จะจัดตั้งห้องผ่าตัดอัจฉริยะได้อย่าง?
ตามที่เราได้เรียนรู้จากบทความ ระบบบูรณาการของ OR ในปัจจุบันนั้นก้าวหน้าอย่างไม่น่าเชื่อ สามารถรวมเข้ากับอุปกรณ์และการควบคุมสิ่งแวดล้อมในห้องผ่าตัดได้อย่างราบรื่นเพื่อลดความซับซ้อนของขั้นตอนการผ่าตัด
อย่างไรก็ตาม การติดตั้งห้องผ่าตัดดิจิตอลนั้นมีต้นทุนสูงเพราะใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ทันสมัย เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ โรงพยาบาลมักจะจำกัดให้มีห้องที่มีอุปกรณ์ครบครันเพียงหนึ่งหรือสองห้องเท่านั้น
เพื่อให้โรงพยาบาลสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงได้มากขึ้น imedtac ได้พัฒนา iMOR-SDB ซึ่งเป็นโซลูชั่นระดับเริ่มต้นที่รองรับการนำร่องวิดีโอขั้นพื้นฐาน การถ่ายทอดสด และการรวมข้อมูลด้วยราคาที่จับต้องได้
แม้ว่าโซลูชั่นจะครอบคลุมน้อยกว่าห้องผ่าตัดดิจิตอลที่มีอุปกรณ์ครบครัน แต่ก็ครอบคลุมสิ่งจำเป็นต่อการทำงานของห้องOR โรงพยาบาลหลายแห่ง ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่สร้างห้องผ่าตัดอัจฉริยะขึ้นใหม่ ได้อัปเกรด OR ของพวกเขาด้วย iMOR-SDB ของ imedtac เนื่องจากสะดวกและคุ้มค่า
โซลูชั่นเพื่อการแพทย์ทางไกล ของ Imedtac ยังเป็นส่วนเสริมที่ได้รับความนิยมสำหรับห้องผ่าตัดดิจิตอล โซลูชั่นเพื่อการแพทย์ทางไกลช่วยให้การปรึกษาออนไลน์กับผู้เชี่ยวชาญคนอื่น ๆ ง่ายขึ้น โดยการรวมข้อมูลผู้ป่วย วิดีโอความชัดระดับ HD และข้อมูลสัญญาณชีพไว้ในแพลตฟอร์มเดียว นอกจากนี้ยังไร้สาย เคลื่อนย้ายสะดวก ปลอดภัยด้วยระบบคลาวด์ และสามารถรวมเข้ากับอุปกรณ์ได้หลากหลาย
บทความที่เกี่ยวข้อง: กระดานสื่อสารผู้ป่วย อัปเดตอัตโนมัติ ไม่เปลืองแรง
บทความที่เกี่ยวข้อง: ห้องผ่าตัดอัจฉริยะ ลดต้นทุนด้วยคอมพิวเตอร์ที่ชาญฉลาด