นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ สถานพยาบาลก็คลาคล่ำไปด้วยผู้ป่วยจำนวนมากเนื่องจากปัญหาสุขภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้การเดินทางของผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลเป็นไปอย่างยากลำบากและต้องใช้เวลามากขึ้นกว่าจะได้รับการดูแลรักษา
อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีความเคลื่อนไหวที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาและความไม่สะดวกเหล่านี้ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เทเลเมดิซีน Telemedicine และ Telehealth ได้ถูกนำมาใช้เพื่อปรับปรุงการเข้าถึงแพทย์และบริการด้านสุขภาพ ไม่เพียงแค่ในพื้นที่ห่างไกล แต่ยังรวมถึงในสถานการณ์ที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น น้ำท่วมและแผ่นดินไหว ซึ่งส่งผลให้การเดินทางไปยังสถานพยาบาลเป็นไปได้ยากลำบาก ช่วยลดความยุ่งยากและความจำเป็นในการออกจากบ้านเพื่อไปพบแพทย์
แต่อะไรคือประโยชน์ที่แท้จริงของ Telehealth และ Telemedicine? และอะไรคือข้อแตกต่างระหว่าง Telehealth และ Telemedicine?
เทเลเมดิซีน Telemedicine และ เทเลเฮลท์ Telehealth คืออะไร
เทเลเมดิซีน (Telemedicine)
เทเลเมดิซีน หรือ “โทรเวชกรรม” หรือ “การแพทย์ทางไกล” หมายถึง การที่ผู้ป่วยสามารถสื่อสารกันผ่าน VDO Call หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ โดยผู้ป่วยสามารถรับคำแนะนำ วินิจฉัยโรค และการรักษาทางการแพทย์เบื้องต้นได้โดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล ทำให้การเข้าถึงการรักษาเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว
ตัวอย่างของเทเลเมดิซีน(Telemedicine):
- ผู้ป่วยปรึกษาแพทย์ผ่าน VDO Call เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วย
- แพทย์ตรวจสอบผลการตรวจสุขภาพของผู้ป่วยผ่านระบบออนไลน์และให้คำวินิจฉัย
- การติดตามผลการรักษาของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โดยแพทย์ให้คำแนะนำและสั่งยาออนไลน์
- การปรับใช้รถเข็น Telemedicine ในโรงพยาบาลหลายแห่งในไต้หวัน
กรณีตัวอย่างกรณีหนึ่งคือการปรับใช้รถเข็น Telemedicine ในโรงพยาบาลหลายแห่งในไต้หวัน รถเข็น Telemedicine เป็นทางเลือกที่ใช้งานได้จริงในสถานพยาบาลของไต้หวัน เนื่องจากสามารถติดตั้งได้ง่าย มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวสูง
รถเข็นไร้สายแบบพกพาเหล่านี้ช่วยให้แพทย์จัดตั้งห้องแยกโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปกป้องข้อมูลผู้ป่วยโดยการใช้ระบบคลาวด์ส่วนตัวของโรงพยาบาล และการรวบรวมข้อมูลจากอุปกรณ์หลากหลายชนิดไว้ในที่เดียว
ตัวอย่างเช่น ห้องแยกโรคที่ช่วยลดการเดินทางไปมาและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ การปรึกษาทางไกลนำเสนอการดึงข้อมูลผู้ป่วยทันทีสำหรับการให้คำปรึกษาแบบออนไลน์ และการสอนทางไกลด้วยวิดีโอความชัดระดับ 4K แบบเรียลไทม์ นำเสนอสื่อการเรียนรู้ที่ถูกต้องแม่นยำ
เทเลเฮลท์ (Telehealth)
เทเลเฮลท์ หรือ “สุขภาพทางไกล” หมายถึง การใช้เทคโนโลยีการสื่อสารในการให้บริการด้านสุขภาพ รวมถึงการให้ความรู้ด้านสุขภาพ การติดตามผลการรักษา การป้องกันโรค และการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพกับผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา ทำให้ผู้รับบริการสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่โรงพยาบาล
ตัวอย่างของ Telehealth:
- การให้คำปรึกษาด้านโภชนาการจากนักโภชนาการผ่านแอปพลิเคชัน
- จัดอบรมออนไลน์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและการออกกำลังกาย
- นักกายภาพบำบัดให้คำแนะนำเกี่ยวกับการฟื้นฟูร่างกายผ่านวิดีโอคอลล์
- คีออสก์วัดสัญญาณชีพอัจฉริยะในโรงพยาบาลธนบุรี
ในโรงพยาบาลธนบุรี ประเทศไทย Telehealth ในรูปแบบของคีออสก์วัดสัญญาณชีพอัจฉริยะ ได้ช่วยปรับปรุงขั้นตอนการวัดสัญญาณชีพให้ง่ายขึ้น แบ่งเป็นสามขั้นตอนง่ายๆ และเชื่อมต่อบุคคล ชุมชน และโรงพยาบาลเข้าด้วยกันด้วย PHR
โรงพยาบาลสามารถให้การจัดการสุขภาพรายบุคคลได้โดยใช้การแสดงภาพการวิเคราะห์ข้อมูลสัญญาณชีพจากระบบคลาวด์ของโรงพยาบาล ยิ่งไปกว่านั้น การผสานรวมอย่างชาญฉลาดของเครื่องตรวจวัดสัญญาณชีพ ช่วยลดภาระงานวัดสัญญาณชีพของผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่สำคัญที่สุด คือ คีออสก์วัดสัญญาณชีพนี้มีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง มุ่งเน้นปรับปรุงประสบการณ์การรอของผู้ป่วยก่อนพบแพทย์ การนำคีออสก์วัดสัญญาณชีพมาใช้ช่วยให้โรงพยาบาลธนบุรีสามารถดูแลสุขภาพผู้ใช้บริการแบบองค์รวมได้มากขึ้น
เทเลเมดิซีน Telemedicine กับ Telehealth แตกต่างกันอย่างไร
หลายคนอาจสับสนกับคำศัพท์เหล่านี้เพราะมักถูกใช้สลับกัน ความแตกต่างระหว่าง Telemedicine และ Telehealth นั้นอยู่ที่การจัดการดูแลสุขภาพผ่านเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีอยู่ก่อนแล้ว
ข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่างทั้งสองคำนี้คือ เทเลเมดิซีน(Telemedicine) ใช้เทคโนโลยีโทรคมนาคมและวิธีการต่างๆ เพื่อให้คำปรึกษาหรือการรักษาระยะสั้นแก่ผู้ป่วย ในขณะที่ Telehealth จะให้แผนการรักษาระยะยาวโดยใช้ เทเลเมดิซีน(Telemedicine) เพื่อดูแลและส่งเสริมสุขภาพของผู้ป่วย
ผู้ป่วยที่อาศัยอยู่ในเมืองที่มีประชากรหนาแน่นและเร่งรีบสามารถหลีกเลี่ยงการเดินทางมาที่คลินิก การติดอยู่ท่ามกลางการจราจรยาวนานหลายชั่วโมง การรอคอยไม่รู้จบ และการลางานหรือการจัดตารางงานใหม่
ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทหรือพื้นที่ห่างไกลก็ได้รับประโยชน์จาก Telehealth และ เทเลเมดิซีน(Telemedicine) เพราะช่วยขจัดความยากลำบากในการเดินทางไกลเพื่อไปพบแพทย์และแก้ไขปัญหาการเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีอยู่อย่างจำกัด
เทเลเมดิซีน Telemedicine | เทเลเฮลท์ Telehealth | |
นิยาม | การรักษาระยะสั้น | การรักษาระยะยาว |
ประโยชน์ | ● ลดการสัมผัสเชื้อโรค
● บริการทางการแพทย์และการให้คำปรึกษาทันที |
● การตรวจสุขภาพเป็นประจำ
● การตรวจสุขภาพระยะยาว แบบเคลื่อนย้ายได้ |
สินค้าที่เกี่ยวข้อง | Telemedicine Carts | Vital Sign Kiosk |
ประโยชน์ของเทเลเมดิซีน Telemedicine และ เทเลเฮลท์ Telehealth
อีกนัยหนึ่ง ความแตกต่างระหว่าง เทเลเมดิซีน(Telemedicine) และ Telehealth คือเทเลเมดิซีนมีขอบเขตเฉพาะเจาะจงมากกว่า Telehealth แพทย์และผู้เชี่ยวชาญสามารถให้บริการผ่านเทคโนโลยีโทรคมนาคมเพื่อการแพทย์ทางไกลต่าง ๆ อาทิ Tele-care, Tele-surgery, Tele-education, Tele-consultation, Tele-monitoring และ Tele-prescription
เทเลเมดิซีน(Telemedicine) มักใช้เพื่อสื่อสารการวินิจฉัย การให้คำปรึกษา และการรักษาระยะสั้น นับตั้งแต่เกิดโรคระบาด ก็ได้กลายเป็นตัวเลือกที่แพร่หลาย เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ป่วยจะได้รับบริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพอย่างรวดเร็ว แม้อยู่ในพื้นที่ห่างไกล
ประโยชน์ของเทเลเมดิซีน(Telemedicine):
- ลดการสัมผัสเชื้อโรค: เนื่องจากการแพทย์ทางไกลจะลดปฏิสัมพันธ์แบบตัวต่อตัวระหว่างแพทย์และผู้ป่วย จึงช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้
- บริการทางการแพทย์และการให้คำปรึกษาทันที: เทเลเมดิซีน(Telemedicine) นำเสนอบริการทางการแพทย์และการให้คำปรึกษาทันที และเวลาคลินิกที่ยืดหยุ่นผ่านการประชุมคลินิกออนไลน์ ปรับปรุงการเข้าถึงการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยหลากหลายกลุ่ม
สรุปความแตกต่างระหว่าง เทเลเมดิซีน Telemedicine และ เทเลเฮลท์ Telehealth
เทเลเมดิซีน(Telemedicine) เหมาะกับการรักษาระยะสั้น ในขณะที่ Telehealth นั้นคือการรักษาระยะยาวโดยใช้วิธีต่าง ๆ ของ Telemedicine กล่าวอีกนัยหนึ่ง เนื่องจาก Telehealth มีปัจจัยด้านเวลา จึงเหมาะสำหรับการรักษาโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการรักษาเพียงครั้งเดียว
ประโยชน์ของ Telehealth:
- การตรวจสุขภาพเป็นประจำ: ในขั้นแรก Telehealth ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถจัดการกับผู้ป่วยที่มีอาการป่วยเรื้อรังได้ดีขึ้น ผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดจะได้รับการรักษาทางการแพทย์ที่ปลอดภัยและสม่ำเสมอมากขึ้น
- การตรวจสุขภาพระยะยาว แบบเคลื่อนย้ายได้: นี่คือการปฏิวัติอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยที่พิการหรือมีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว ตอนนี้พวกเขามีวิธีที่ปลอดภัยและง่ายกว่าในการรับการดูแลและการตรวจสุขภาพเพื่อติดตามอาการป่วยเรื้อรังของเขา ด้วยการลดอุปสรรคในการเข้าถึงการนัดหมายแพทย์ แพทย์สามารถตรวจสุขภาพผู้ป่วยเป็นระยะในขณะที่พวกเขายังคงอยู่ในบ้านอย่างปลอดภัย
โซลูชันเทเลเมดิซีน Telemedicine และ เทเลเฮลท์ Telehealth พิเศษสำหรับโรงพยาบาลทั่วไป
ตอนนี้เราได้สร้างความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่าง telemedicine และ telehealth แล้ว ต่อมาเราจะเจาะลึกเรื่องโซลูชันดูแลสุขภาพทางไกลแบบ all-in-one สำหรับโรงพยาบาลทั่วไป
การปรึกษาแพทย์ทางไกลระหว่างแพทย์และผู้ป่วยได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง เนื่องจากช่วยลดการสัมผัสเชื้อโควิด โซลูชันเทเลเมดิซีน Telemedicine และ เทเลเฮลท์ Telehealth ของ imedtac บูรณาการข้อมูลผู้ป่วย วิดีโอ และข้อมูลสัญญาณชีพไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้การรับคำปรึกษาออนไลน์จากผู้เชี่ยวชาญสะดวกยิ่งขึ้น และให้การดูแลผู้ป่วยรายบุคคลได้อย่างทันท่วงที
โซลูชัน Telehealth ของ imedtac มีข้อได้เปรียบหลักสี่ประการที่ทำให้โซลูชันนี้แตกต่างจากโซลูชันอื่นๆ ในตลาด:
1. ความยืดหยุ่นและความคล่องตัวสูง
ไร้สาย เคลื่อนย้ายสะดวกและตั้งค่าง่าย ความยืดหยุ่นและความคล่องตัวสูงทำให้สามารถเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ต่างๆ ได้ โดยไม่ต้องเชื่อมต่อติดตั้งแบบใช้สาย
2. รองรับการประชุมทางวิดีโอ/เสียง
รองรับกล้องระดับความคมชัด 1080P หรือ HD พร้อมระบบเสียงในตัว ช่วยให้ผู้ป่วยในห้องแยกโรคสามารถสื่อสารกับผู้ดูแลประจำหน่วยของตนได้ง่ายขึ้น
3. เกรดทางการแพทย์
อุปกรณ์ของ Imedtac มาพร้อมกับรถเข็นพยาบาลเกรดทางการแพทย์ สามารถทำความสะอาดฆ่าเชื้อได้ด้วยแอลกอฮอล์ 75%
4. ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ตรวจสอบสัญญาณชีพ
สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์หลากหลายชนิด และเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ส่วนตัวเพื่อรักษาความปลอดภัยข้อมูลของผู้ป่วย
กำลังมองหาโซลูชันด้านการดูแลสุขภาพเพิ่มเติมอยู่ใช่ไหม? ติดต่อ imedtac วันนี้ ให้เราแนะนำขั้นตอนการทำงานของ Telemedicine และ Telehealth สำหรับโรงพยาบาลอัจฉริยะของคุณ!
สนใจสินค้าสอบถามเพิ่มเติมได้ที่:
Email : Beren.Hsieh@imedtac.com
ติดต่อเรา : https://www.imedtac.com/th/contact/
บทความ เทเลเมดิซีนที่เกี่ยวข้อง:
สุขภาพดิจิทัลยกระดับการบริการสุขภาพในพื้นที่ชนบทอย่างไร
โรงพยาบาลตู้คอนเทนเนอร์หนทางการรักษาผู้ป่วยที่ดีที่สุดในช่วงเกิดภัยพิบัติ
imedact การแพทย์อัจฉริยะไทย สร้าง “การแพทย์ฉุกเฉินทางไกล-ตรวจจับภาวะเลือดออกในสมองด้วย AI”